ด้วยความที่เทรนด์ปากกระจับกำลังมาแรงทำให้หลายคนรีบค้นหากันเลยว่าฉีดปากกระจับราคาเท่าไหร่ เพราะอยากจะไปทำบ้าง เพราะเป็นทรงปากที่สวยและเหมาะสำหรับสาวเอเชียหรือสาว ๆ ในบ้านเรา นอกจากนี้ยังรวมถึงหนุ่ม ๆ และเพื่อน ๆ LGBTQ ที่นิยมฉีดกันมากขึ้นด้วย เพราะทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มและดูเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ช่วยให้หน้าตาดูเป็นมิตรขึ้น สดใสขึ้น

ฉีดปากกระจับราคาเท่าไหร่ แพงไหม ?

                ฉีดปากกระจับราคาเท่าไหร่? ต้องบอกก่อนว่าราคาของการฉีดปากกระจับในแต่ละที่นั้นราคาไม่เท่านั้น โดยจะมีตั้งแต่ราคาหลักพันปลาย ๆ ไปถึงหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่แต่ละที่เลือกใช้ ส่วนเรทที่นิยมจะอยู่ที่ราคาประมาณ 10,000 – 20,000 บาท/ 1 CC แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรูปปากของแต่ละคนและความเชี่ยวชาญของแพทย์ด้วย

                การฉีดปากกระจับควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกจนเกินไปจากคำโฆษณาที่โอ้อวดเกินจริง ควรเลือกฉีดฟีลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาหรือมีเครื่องหมาย อย. กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะมีความปลอดภัยมากกว่า ควรระวังฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานจากผู้ที่แอบอ้างเป็นแพทย์ เพราะหากฉีดไปแล้วอาจทำให้เกิดอันตรายได้

ข้อควรระวังในการฉีดปากกระชับ

                นอกจากเรื่องราคาที่หลายคนอยากรู้ว่าฉีดปากกระจับราคาเท่าไหร่แล้ว ข้อควรระวังในการฉีดก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยผู้ที่สามารถฉีดปากกระจับได้จะต้องไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ก่อนฉีดควรงดยากลุ่ม NSAIDs เช่น ยา Diclofenac, Ibuprofen, Celecoxib และยาแอสไพริน ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีดอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และสำหรับใครที่มีโรคประจำตัวหรือทานยาชนิดใดเป็นประจำอยู่ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อน

                หลังฉีดควรงดสัมผัสที่บริเวณริมฝีปาก ไม่ควรไปจับหรือกด ควรงดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ งดทานอาหารและเครื่องดื่มที่ร้อนหรือเข้าใกล้ของร้อนต่าง ๆ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์ละลายได้ ควรงดทาลิปสติกหรือมาส์กริมฝีปาก ไม่ควรกัดปากหรือเม้มปาก งดทำกิจกรรมที่ใช้ปากและงดออกกำลังกาย เพราะจะทำให้ปากเกิดการอักเสบและเสียรูปทรงได้

                ได้ทราบกันไปแล้วว่าฉีดปากกระจับราคาเท่าไหร่ ก่อนเลือกฉีดกับที่ไหนควรเช็กราคาให้ดี และควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานเพื่อให้ริมฝีปากออกมาดูสวยเป็นกระจับตรงตามที่ต้องการ โดยการฉีดปากกระจับจะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันที แต่จะเห็นผลได้ชัดในช่วง 1 – 2 สัปดาห์ ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ จากนั้นฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปเองตามธรรมชาติ หากถูกใจสามารถกลับมาฉีดใหม่ได้